สรุปภาวะตลาด

Nvidia สั่งผลิตชิป H20 จาก TSMC เพิ่มอีก 300,000 ชิ้น รับดีมานด์จากจีนแข็งแกร่ง สัญญาณบวกต่อหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ -จีน
- Nvidia ได้สั่งผลิตชิป H20 เพิ่มอีก 300,000 ชิ้นจาก TSMC เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามรายงานของ Reuters ที่อ้างอิงจากแหล่งข่าวที่เปิดเผยว่า ความต้องการที่แข็งแกร่งจากตลาดจีนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Nvidia ปรับเปลี่ยนแผนจากเดิมที่ตั้งใจใช้เฉพาะสินค้าคงคลังที่มีอยู่
- ในช่วงกลางเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา รัฐบาลทรัมป์ได้ผ่อนคลายข้อจำกัดการส่งออก โดยอนุญาตให้ Nvidia กลับมาจำหน่ายชิป GPU รุ่น H20 และ อนุญาตให้ AMD กลับมาส่งออกชิปรุ่น MI308 ให้กับจีนอีกครั้ง ซึ่งนับเป็นการย้อนกลับมาตรการควบคุมที่เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่เดือนเม.ย. ที่มีจุดประสงค์เพื่อจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยี AI ขั้นสูงของจีนด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ
- H20 เป็นชิปที่ Nvidia ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับตลาดจีน หลังจากที่ชิปรุ่นอื่นของบริษัทถูกจำกัดการส่งออกเมื่อช่วงปลายปี 2023 อย่างไรก็ตาม H20 มีพลังการประมวลผลน้อยกว่า H100 และชิปรุ่นใหม่ตระกูล Blackwell ที่จำหน่ายในตลาดอื่น เช่นเดียวกันกับ MI308 ซึ่งเป็นชิป AI Accelerator ของ AMD ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองข้อกำหนดด้านการส่งออกของสหรัฐฯ เช่นกัน
หุ้น NVIDIA และ AMD ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนับตั้งแต่มีการเผยแพร่ข่าวการผ่อนคลายข้อจำกัดการส่งออกชิปไปยังจีนเมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2025 โดย NVIDIA ปรับขึ้น +3.10% และ AMD พุ่งแรงถึง +8.48% (ณ วันที่ 28 ก.ค.) สะท้อนมุมมองเชิงบวกของนักลงทุนต่อโอกาสรายได้ที่ฟื้นตัวจากตลาดจีน
ขณะเดียวกัน ดัชนี Hang Seng Tech ซึ่งสะท้อนกลุ่มเทคโนโลยีจีนก็ปรับขึ้น +4.54% ในช่วงเวลาเดียวกัน สะท้อนความคาดหวังว่าผู้ให้บริการคลาวด์ แพลตฟอร์ม AI และผู้ผลิตอุปกรณ์ในห่วงโซ่อุปทานจะได้รับประโยชน์จากการเข้าถึงชิปสมรรถนะสูงของสหรัฐอีกครั้ง ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน AI ในจีนช่วงครึ่งหลังของปี
แนวโน้มการลงทุนและกลยุทธ์การลงทุน
การกลับมาจัดส่งชิป H20 ของ NVIDIA จะเปิดทางให้ผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ของจีน อาทิ Alibaba Cloud และ Tencent Cloud สามารถเข้าถึงฮาร์ดแวร์ประมวลผลประสิทธิภาพสูงได้อีกครั้ง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการยกระดับขีดความสามารถของแพลตฟอร์ม AI ภายในประเทศ นอกจากนี้ บริษัทเทคโนโลยีจีนอย่าง ByteDance และ DeepSeek จะสามารถใช้ชิปของสหรัฐฯ อย่าง H20 ในการฝึกโมเดล Chatbots และแอปพลิเคชันด้าน Generative AI ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นแรงสนับสนุนสำคัญต่อการขยายตัวของ AI Ecosystem ในจีน
NVIDIA และ AMD
การผ่อนคลายมาตรการดังกล่าว ช่วยให้ NVIDIA รักษาเสถียรภาพของรายได้ได้ดีขึ้น หลังจากในช่วงเดือนเม.ย. นักลงทุนเคยประเมินว่าบริษัทอาจไม่สามารถสร้างรายได้จากตลาดจีนได้ในอนาคตอันใกล้ หากสามารถกลับมาจัดส่ง H20 ได้ตามแผน มุมมองของตลาดจึงเปลี่ยนกลับเป็นบวกทันที และจะกลายเป็น อัพไซด์ต่อทั้ง NVIDIA และบริษัทในห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวข้อง รวมถึง AMD ที่ได้รับแรงสนับสนุนในทิศทางเดียวกัน
นอกจากนี้ แรงส่งจากฝั่งนโยบายของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี AI ภายในประเทศ ซึ่งครอบคลุมประเด็นสำคัญได้แก่ การผ่อนคลายกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของ AI, การเพิ่มแหล่งพลังงานรองรับศูนย์ข้อมูล (Data Centers), การลดข้อจำกัดที่เข้มงวดเกินความจำเป็นในระดับรัฐ และการส่งเสริมการส่งออกเทคโนโลยี AI ไปต่างประเทศ โดยนโยบายเหล่านี้จะช่วยยกระดับ ขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ และเป็นแรงสนับสนุนเชิงกลยุทธ์ทั้งในด้านเทคโนโลยีและรายได้ สำหรับผู้ผลิตชิปรายใหญ่ เช่น NVIDIA และ AMD
ด้านจีน
การที่ NVIDIA กลับมาสามารถส่งมอบชิป H20 ถือเป็นสัญญาณบวกที่อาจสะท้อนถึงความสัมพันธ์ทางเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่อาจมีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้นในระยะข้างหน้า บริษัทเทคโนโลยีจีนรายใหญ่ เช่น Tencent, ByteDance (เจ้าของ TikTok) และ Alibaba ต่างเคยเพิ่มคำสั่งซื้อ H20 อย่างมีนัยสำคัญก่อนเกิดการแบนในเดือนเม.ย. เพื่อรองรับการใช้งานในแพลตฟอร์ม AI และแอปพลิเคชันภายในประเทศ จึงมีแนวโน้มว่าการกลับมาของ H20 จะกระตุ้นให้บริษัทเหล่านี้เดินหน้าลงทุนใน AI Infrastructure และ AI Model Training ได้เต็มที่อีกครั้ง ท่ามกลางการเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในจีน หุ้นเทคโนโลยีจีนมีแนวโน้มได้รับอานิสงส์โดยตรงจากการผ่อนคลายดังกล่าว ทั้งในแง่ของความสามารถในการแข่งขันและการลดต้นทุนในการเข้าถึงเทคโนโลยี AI ขั้นสูง
อย่างไรก็ดี กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ยังไม่ได้อนุมัติใบอนุญาตการส่งออกอย่างเป็นทางการ สำหรับชิป H20 ของ NVIDIA และ MI308 ของ AMD ซึ่งยังคงเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ยังต้องจับตาทิศทางของกฎหมาย CHIPS Act และนโยบายควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูงของสหรัฐฯ ที่อาจมีการปรับแก้หรือขยายขอบเขตเพิ่มเติมในอนาคต และอาจส่งผลต่อ sentiment ของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีทั่วโลก
กองทุนแนะนำ
LHCHINA: กองทุนหุ้นจีนเน้นลงทุนในหุ้นจีนทั้งในตลาด A-Share และ H-Share ครอบคลุมอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตสูง เช่น เทคโนโลยีและ Healthcare เพื่อรับโอกาสจากการฟื้นตัวของหุ้นจีน โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีที่ยังเติบโตต่อเนื่อง ท่ามกลางสัญญาณผ่อนคลายความตึงเครียดด้านเทคโนโลยีระหว่างจีนกับสหรัฐฯ
LHMEGA: กองทุนหุ้นโลกที่เน้นลงทุนในกลุ่มเมกะเทรนด์ระดับโลก เช่น AI, พลังงานสะอาด, การแพทย์ชีวภาพ และเทคโนโลยีดิจิทัล โดยคัดเลือกบริษัทชั้นนำที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงและได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจโลก
โดยมีคำแนะนำกองทุนทั้งสอง “ซื้อเมื่อราคาย่อตัว สำหรับทั้งกองทุน LHCHAINA และ LHMEGA” เนื่องจากภาวะตลาดปัจจุบันอยู่ในระดับราคาที่สูง ซึ่งอาจเผชิญแรงขายทำกำไรในระยะสั้น การทยอยสะสมเมื่อราคาปรับฐานจึงเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสม และควรจัดสรรน้ำหนักการลงทุนไม่เกิน 10-20% ของพอร์ต และตั้งจุด Stop Loss ที่ 8-10% จากราคาทุน เพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนระยะยาวจากธีมการลงทุนที่มีศักยภาพ
Souzrce: CNBC, Bloomberg, Investing.com
Data as of 29 ก.ค. 2025
- ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
- เนื่องจากกองทุน ไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
- ผลการดำเนินงานในอดีต ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต