สรุปภาวะตลาด
ภาวะเศรษฐกิจถดถอยกลับมาสร้างความกังวลให้กับตลาดอีกครั้ง
ดัชนีความผันผวนอย่าง VIX Index ที่ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน โดยมีหลายเหตุการณ์ที่น่าสนใจ
1.ตัวเลข ISM Manufacturing และ JPM Global Manufacturing PMI เดือนก.ค. ที่ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด และเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 7 เดือน โดยเฉพาะ New orders และ Employment ที่ปรับตัวลดลงเป็นอย่างมาก เมื่อ New Orders ลดลง แสดงถึงความต้องการสินค้าที่ลดลงจากทั้งภายในและต่างประเทศ นำไปสู่การลดกำลังการผลิตของบริษัทต่าง ๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้และกำไรของธุรกิจ ทำให้เศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัว
2. Initial Jobless Claims ที่ชาวสหรัฐฯมีการขอรับสวัสดิการคนว่างงานที่ระดับสูงที่สุดในรอบ 1 ปี สะท้อนผ่านการจ้างงานในสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลงชัดเจนในเดือนกรกฎาคม รวมถึงอัตราคนว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 4.3% ซึ่งสูงที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี ตัวเลขการจ้างงานเพิ่มขึ้นแค่ 114,000 ตำแหน่งในเดือนที่แล้ว ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดไว้ เมื่อคนมีงานทำน้อยลง กำลังซื้อก็ลดลง ส่งผลกระทบต่อความต้องการสินค้าและบริการ และกระทบต่อกำไรของบริษัทต่างๆ
3.ปัจจัยทางเศรษฐกิจโลก เช่น ความตึงเครียดทางการค้า ความกังวลในสงคราม หรือการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศสำคัญนอกจากอเมริกาเช่น จีน ญี่ปุ่น และในกลุ่มทวีปยุโรป ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ทำให้เกิดความไม่แน่นอนและความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของเศรษฐกิจ
มุมมองการลงทุน
- จากภาพดังกล่าวคาดว่าคณะกรรมการ FOMC มีโอกาสมากกว่า 70% ที่ Fed จะลดดอกเบี้ย 0.5% ในเดือนกันยายน และคาดว่าจะมีการลดดอกเบี้ยรวมประมาณ 1.19% ภายในสิ้นปีนี้
- เลือกลงทุนในหุ้นของกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยน้อย เช่น สินค้าจำเป็น (Consumer Staples), การดูแลสุขภาพ (Healthcare), และสาธารณูปโภค (Utilities) เนื่องจากสินค้าและบริการเหล่านี้ยังคงมีความต้องการอยู่เสมอ
- จัดพอร์ตการลงทุนบางส่วนไปยัง ตราสารหนี้ พันธบัตรรัฐบาล และทองคำ เนื่องจากสินทรัพย์เหล่านี้มักได้รับการพิจารณาว่ามีความปลอดภัยในช่วงเศรษฐกิจถดถอย
- จากภาพดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่องผู้ลงทุนประเภทนักลงทุนระยะยาว เราจึงมีมุมมองว่านักลงทุนระยะยาวยังคงสามารถทยอยลงทุนใน เมื่อราคาหุ้นลดลงเป็นช่วงๆ เช่น ทุก 5% หรือ 10% หรือใช้กลยุทธ์ Dollar-Cost Averaging (DCA) เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดได้
กองทุนที่น่าสนใจลงทุน
- LHHEALTH ในช่วงที่ตลาดเผชิญความผันผวนจาก Valuation ของหุ้นที่ตึงตัว และความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย , ซึ่งกลุ่ม Healthcare มีค่าเบต้าที่ระดับ 0.6-0.7 ทำให้มีลักษณะความเป็น Defensive สามารถเผชิญกับความผันผวนของตลาดได้ โดยเฉพาะในช่วงเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม
- LHDIVB ความผันผวนของตลาดจะเพิ่มขึ้นในช่วงที่ใกล้เข้าสู่การเลือกตั้ง DIVB ช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน และหุ้นที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้น และการซื้อหุ้นคืนในตลาด และ หุ้นใน Theme value, cyclical, defensive ที่เริ่มเห็น การกลับเข้ามาซื้อตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
- LHBLUESKY เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยในปีนี้มากขึ้นกว่าคาด จากเดินที่ 1-2 ครั้ง เป็นถึง 2-3 ครั้ง โดยตลาดคาดว่าเฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนกันยายนนี้ , ตราสารหนี้ ถือเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ สามารถใช้เป็นตัวช่วยเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนให้กับพอร์ตลงทุนได้ดีในสภาวะตลาดที่มีความไม่แน่นอนอยู่สูงอย่างในช่วงปัจจุบัน