LAND AND HOUSES FUND MANAGEMENT CO.,LTD

ข่าวสารและกิจกรรม

สรุปภาวะตลาด



ตลาดในสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นอย่างไร?
ผลจากยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ ที่น้อยกว่าคาดการณ์ และผลประกอบการไตรมาส 3/2564 ของธนาคารขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ ที่ดีกว่าคาดทำให้ตลาดหุ้นโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ในช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่ตลาดหุ้นกลุ่ม ASEAN ยังคง outperform ตลาดหุ้นโลกได้อีกสัปดาห์หนึ่ง

มุมมองการลงทุน
ตลาดหุ้น
คาดตลาดหันมาให้ความสำคัญกับผลประกอบการไตรมาส 3/2564 และมุมมองต่อผลประกอบการในอนาคตของผู้บริหาร รวมถึงปัจจัยทางเศรษฐกิจมากขึ้น โดยยังคงมองว่าหุ้นกลุ่มที่มีโอกาส outperform ตลาดโดยรวมในระยะ 3-6 เดือนข้างหน้าคือหุ้นกลุ่ม Value, Cyclical เช่น ญี่ปุ่น รวมถึงประเทศใน EM ที่ยัง laggard และเศรษฐกิจมีแนวโน้มกลับมาฟื้นตัวได้ดีในปีหน้าเช่น ASEAN เป็นต้น ส่วนหุ้นจีน (offshore) นั้นคาดว่ามีโอกาส bottom out ในช่วงปลายปีนี้ ในส่วนของหุ้นเทคโนโลยีแม้มีโอกาส underperform ในช่วงที่ Bond yield และ Real yield ปรับตัวขึ้น แต่เป็นโอกาสทยอยสะสมสำหรับผู้ลงทุนระยะยาวและรับความผันผวนสูงได้
PF&REITs
คาด REITs เอเชียรวมถึงไทยมี downside risk ค่อนข้างจำกัด จากราคาที่ laggard โดยหากการฉีดวัคซีนก้าวหน้าจะเป็นปัจจัยหนุน REITs กลุ่มนี้ได้ รวมถึงมีอัตราเงินปันผลที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับ Global REITs จึงน่าจะ outperform ได้ในระยะถัดจากนี้

กลยุทธ์การลงทุน และกองทุนที่น่าสนใจ
ระยะยาว ให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นมากกว่า REITs และตราสารหนี้ เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า แต่อาจไม่ปรับตัวขึ้นรวดเร็วเหมือนที่ผ่านมา เพราะสภาพคล่องในระบบลดลง รายได้และกำไรของบจ. บางประเทศที่ชะลอลง แนะนำ Buy on Dip โดยแนะนำ

LHJAPE (ระดับความเสี่ยง 6 และมี FX Risk) นโยบายภาครัฐยังสนับสนุนการฟื้นตัวเศรษฐกิจ Valuation ถูกกว่าสหรัฐฯ และยุโรป กำไรต่อหุ้นถูกปรับขึ้น ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ และมักปรับตัวขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปี
LHTPROP (ระดับความเสี่ยง 8) และ LHPROPIA (ระดับความเสี่ยง 8 และมี FX Risk) ซึ่งมีโอกาสได้ประโยชน์จากการกลับมาเปิดเศรษฐกิจหลังผู้ได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้น มีอัตราเงินปันผลและ Earning Yield Gap ปี 2022 สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และยัง laggard
LHMSFL (ระดับความเสี่ยง 6) สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในหุ้นไทย และ LHSMARTDSSF (ระดับความเสี่ยง 5) สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในหุ้นและ PF&REITs ไทยพร้อมประหยัดภาษี โดยแนะนำทยอยลงทุนเมื่อ SET Index ปรับตัวใกล้ระดับ 1,600 จุด +/-

โดยแนะนำลงทุนให้สอดคล้องกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้และเป้าหมายผลตอบแทนที่คาดหวังจากการลงทุน
*ผู้ลงทุนสามารถติดตามมุมมองการลงทุน Thai REITs, Asian REITs และหุ้นไทยได้ตามบทความที่ได้ส่งออกก่อนหน้า

Key Event ในสัปดาห์นี้
ต่างประเทศ
-GDP growth ของจีน Q3/2564 (คาด 5.2% yoy)
-ผลประกอบการบจ. Q3/2564
ภายในประเทศ
-การส่งออก นำเข้าเดือนก.ย.
-ผลประกอบการบจ. Q3/2564


ที่มา LHFund 15 ต.ค. 64 




 

กรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ