LAND AND HOUSES FUND MANAGEMENT CO.,LTD

ข่าวสารและกิจกรรม

สรุปภาวะตลาด




ตลาดในสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นอย่างไร?
ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง จากการที่ bond yield โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นรวดเร็วและต่อเนื่อง อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงและอาจยาวนานกว่าคาด หลังจีนและบางประเทศในยุโรปประสบปัญหาขาดแคลนพลังงาน และราคาพลังงานที่สูงขึ้น ปัจจัยดังกล่าวยังอาจทำให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจชะลอลงได้ในช่วงที่เหลือของปี

มุมมองการลงทุนในสัปดาห์นี้
ตลาดหุ้น
คาดตลาดหุ้นปรับตัว sideway โดยยังคงมีปัจจัยกดดันจากการเพิ่มระดับเพดานหนี้ของสหรัฐฯ และ bond yield ที่มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อสหรัฐฯ สามารถผ่านกฎหมายเพื่อยกระดับเพดานหนี้ได้ โดยหุ้นกลุ่มที่มีโอกาส outperform ตลาดโดยรวมในระยะ 3-6 เดือนข้างหน้าคือหุ้นกลุ่ม Value, Cyclical หากพิจารณาเป็นรายประเทศเช่นยุโรป, ญี่ปุ่น รวมถึงประเทศใน EM ที่ laggard และเศรษฐกิจมีโอกาสกลับมาฟื้นตัวในปีหน้าเช่น ASEAN เป็นต้น ขณะที่ผู้ลงทุนระยะยาวอาจพิจารณาทยอยสะสมหุ้นเทคโนโลยีเมื่อปรับตัวลงแรง
PF&REITs
คาด Global REITs ยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดีได้ในระยะยาว แต่ upside จำกัดในระยะสั้น และอาจมีแรงขายทำกำไรหาก bond yield ปรับตัวขึ้นแรง ขณะที่ REITs เอเชียรวมถึงไทยมี downside risk ค่อนข้างจำกัด จากราคาที่ laggard โดยหากการฉีดวัคซีนก้าวหน้าจะเป็นปัจจัยหนุน REIT กลุ่มนี้ได้ รวมถึงมีอัตราเงินปันผลที่สูงกว่าโดยเปรียบเทียบ

กลยุทธ์การลงทุน และกองทุนที่น่าสนใจ
ระยะยาว ให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นมากกว่า REITs และตราสารหนี้ เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า แต่จะไม่ปรับตัวขึ้นรวดเร็วเหมือนที่ผ่านมา เพราะสภาพคล่องในระบบเริ่มลดลง การเติบโตของรายได้และกำไรของบจ. บางประเทศที่ชะลอลง แนะนำ Buy on Dip โดยมีกองทุนแนะนำ เช่น

LHJAPE (ระดับความเสี่ยง 6 และมี FX Risk): นโยบายการคลังและการเงินที่สนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ Valuation ถูกกว่าสหรัฐฯ และยุโรป กำไรต่อหุ้นถูกปรับขึ้น ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ และมักปรับตัวขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปี
LHTPROP (ระดับความเสี่ยง 8) และ LHPROPIA (ระดับความเสี่ยง 8 และมี FX Risk) ซึ่งมีโอกาสได้ประโยชน์จากการกลับมาเปิดเศรษฐกิจหลังผู้ได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้น มีอัตราเงินปันผลปี 2022 สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และยัง laggard
LHHEALTH (ระดับควาเสี่ยง 7) เติบโตไปกับ healthcare innovation ซึ่งเป็น megatrend ในระยะยาว
LHMSFL และ LHSMARTDSSF (ระดับความเสี่ยง 5): สำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดภาษี โดยแนะนำทยอยลงทุนเมื่อ SET Index ปรับตัวใกล้ระดับ 1,600 จุด +/- โดยคาดเมื่อเข้าใกล้ช่วงประกาศผลการดำเนินงานบจ. ไตรมาส 3 จะมีโอกาสในการทยอยสะสม

ความเสี่ยง ตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้อาจมีการปรับฐานหากมีปัจจัยลบแม้เพียงเล็กน้อยเข้ามาในระยะสั้น ซึ่งเป็นโอกาสเข้าลงทุนอีกครั้ง ทั้งนี้แนะนำลงทุนให้สอดคล้องกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้และเป้าหมายผลตอบแทนที่คาดหวังจากการลงทุน

Key Event ในสัปดาห์นี้

ต่างประเทศ
-การพิจารณาขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯ
-การจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ (ADP) (ก.ย.) คาดเพิ่มขึ้น 500,000 ราย
-PMI ภาคการผลิตและบริการของสหรัฐฯ, ยูโรโซน และ Caixin Services PMI จีน เดือน ก.ย.

ในประเทศ
-ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและอัตราเงินเฟ้อเดือน ก.ย.

ที่มา LHFund 4 ต.ค. 64

















 

กรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ