สรุปภาวะตลาด
เหตุการณ์ที่สำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา
- ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี แม้จะดีดตัวตอบรับ แต่ภาพใหญ่ยังอยู่ในช่วงการปรับตัวลงจากสูงสุดที่ทำไว้บริเวณ 4.8% เช่นเดียวกับ Dollar index ที่ก็ไม่มีจุดสูงสุดใหม่ สะท้อนว่าตลาดให้น้ำหนักกับความเสี่ยงดอกเบี้ยไปมากพอสมควร
- ถ้อยแถลงของบรรดาสมาชิก FOMC เริ่มมีโทนที่ Hawkish ลดลง โดยเป็นผลมาจาก Financial Condition ของสหรัฐฯ ที่ตึงตัวมากขึ้น ในช่วงที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีเร่งตัวขึ้น ทำให้สมาชิกที่มีสิทธิโหวตบางรายเริ่มมองว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจไม่เกิดขึ้น โดยให้น้ำหนักกับเรื่อง Earning Recession ที่คาดว่าจะจบลงในช่วงการรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3
- ข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่แม้เงินเฟ้อจะกลับมายืนที่ระดับ 0% ในเดือน ก.ย. และเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเงินฝืด แต่หากพิจารณาแนวโน้มในช่วง 4Q66 ที่เป็นช่วงวันชาติ หยุดยาว Golden Week ซึ่งการใช้จ่ายบริโภคในประเทศเร่งตัวกลับมาเหนือช่วงก่อนเกิด COVID-19 จึงไม่น่ากังวลมากนัก ผสานกับตัวเลขเศรษฐกิจที่จะทยอยรายงานต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ ทั้งผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Consensus คาด +4.3% YoY) และ ยอดค้าปลีก (Consensus คาด +4.9% YoY) ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี น่าจะทำให้การปรับลดประมาณการณ์เศรษฐกิจ ผ่านพ้นไปแล้ว
- เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวขึ้นแรง 5.7% เป็น USD90.9/bbl หลังจากความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางมีแนวโน้มที่จะขยายวงกว้างขึ้น โดยอิสราเอลได้ประกาศเริ่มการโจมตีภาคพื้นดินภายในฉนวนกาซา (Gaza strip) ซึ่งเป็นการเปลี่ยนจากสงครามทางอากาศเป็นการปฏิบัติการภาคพื้นดินเพื่อกำจัดนักรบฮามาส (Hamas) หนึ่งสัปดาห์ภายหลังกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ก่อเหตุรุนแรงทางตอนใต้ของอิสราเอล
- 17 ต.ค. สหรัฐฯ: ยอดค้าปลีกเดือน เดือนก.ย. (MoM) โดยตัวเลขเดือนส.ค. อยู่ที่ 0.6% โดยตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 0.2%
- 17 ต.ค. สหรัฐฯ: ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือนก.ย. (MoM) โดยตลาดคาดการณ์ที่ -0.1% โดยตัวเลขเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 0.4%
- 18 ต.ค. ยุโรป: เงินเฟ้อ เดือนก.ย. โดยตลาดคาดการณ์ที่ 4.3% y/y โดยตัวเลขเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 5.2%
- 18 ต.ค. จีน: GDP 3Q (YoY) คาดว่าอยู่ที่ 4.5% โดยไตรมาสก่อนอยู่ที่ 4.6%
- 18 ต.ค. จีน: ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (กันยายน) (YoY) คาดว่าอยู่ที่ 4.3% โดยเดือนก่อนอยู่ที่ระดับ 4.5 %
- อัตราดอกเบี้ยในตลาดที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ได้สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนทั่วโลก โดยตลาดยังคงจับตามองว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯรุ่นอายุ 10 ปีนั้น จะทะลุทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 5.0% หรือไม่ ในเดือนต.ค. นี้ โดยเฉพาะจากปริมาณการออกพันธบัตรใหม่ของรัฐบาลสหรัฐฯเป็นจำนวนมาก และการทำ Quantitative Easing จากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) แต่อย่างไรก็ตาม เรามองว่าตัวเลขเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อของสหรัฐฯ นั้นยังคงมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 4 นั้น ทำให้อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรไม่น่าสูงขึ้นได้อีกมาก
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ นั้นยังคงมีแนวโน้มของผลประกอบการในไตรมาส 3 และ 4 ที่โดดเด่นกว่าภูมิภาคอื่น โดยเฉพาะกลุ่ม Technology ขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ที่ยังคงมีการเติบโตของรายได้จากธุรกิจอย่าง AI, Cloud และ Data Center ต่างๆ ในขณะที่บริษัทได้มีการลดพนักงานลง และไม่ได้มีปัญหาขาดแคลนแรงงานเหมือนในกลุ่มอุตสาหกรรมอื่น
- ตลาดหุ้นไทย ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น จากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบันในไทย โดยทางเรายังคงมีมุมมองว่าถ้าหากอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ นั้นได้ผ่านจุดสูงสุด จากเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอตัวลง นั้นจะทำให้แรงซื้อของค่าเงินบาท และสินทรัพย์ในประเทศไทย นั้นจะกลับมาอีกครั้ง โดยตลาดหุ้นไทยนั้น ในขณะที่ภาคการท่องเที่ยว และการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลชุดใหม่ นั้นจะสามารถเป็น Upside สำหรับตลาดหุ้นไทยได้
กองทุนแนะนำ
- LHGEQ : กระจายการลงทุนในหุ้นทั่วโลก ในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เน้นลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพดี มีหนี้สินต่ำ เป็นผู้นำในตลาด มีกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในระยะถัดไปคาดว่าตลาดหุ้นยังเป็น sideway up จากดอกเบี้ยทั่วโลกที่ใกล้ระดับสูงสุดแล้ว
- LHHEALTH : เหมาะกับตลาดทั้งขาลงและขาขึ้น มีสัดส่วนประมาณ 50% ใน pharmaceutical, healthcare services ที่ค่อนข้าง defensive สิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ อายุที่เพิ่มขึ้น หรือ รายได้เพิ่มขึ้น และอีก 50% ในกลุ่ม healthcare เช่น biotech , life sciences, healthcare equipment ที่มี growth สูง ได้ประโยชน์จากเทคโนโลยี
- LHESPORT : การเติบโตของรายได้ที่สม่ําเสมอ บริษัทวิดีโอเกมส์มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาโดย กระจายไปทั่วแพลตฟอร์มและเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ ตอนนี้เป็นเปอร์เซ็นต์ที่ใหญ่ที่สุดของรายได้จากเกมส์ทั่วโลก ใหญ่กว่าทั้งพีซีและคอนโซล
ที่มา LHFUND, CNBC, Investing.com, Bloomberg, ThaiPBS
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
