LAND AND HOUSES FUND MANAGEMENT CO.,LTD

ข่าวสารและกิจกรรม

สรุปภาวะตลาด





งบ NVIDIA ดีกว่าคาด พาตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 7

เหตุการณ์ที่สำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงสามารถยืนในระดับที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ต่อเนื่อง โดยที่ดัชนี Dow 1.3%, S&P 500 1.7% และ Nasdaq 1.4% จากการปรับขึ้นของหุ้น NVIDIA ที่กำไรออกมาดีกว่าคาด แม้ผลการประชุมของ Fed จะยังกังวลหากปรับลดดอกเบี้ยเร็วเกินไป ขณะที่ดัชนี Nikkei ทำระดับสูงสุดใหม่ระหว่างสัปดาห์ หลังจากที่เคยทำไว้เมื่อปี 1989
  • โดยมีปัจจัยที่สำคัญมาจากบริษัท Nvidia (ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงชั้นนำของโลก) นั้นได้ประกาศผลประกอบการที่รายได้ และกำไรนั้นโต กว่า 260% y/y และ 480% y/y ตามลำดับ ซึ่งออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ และในช่วงของการแถลงข่าวทางผู้บริหารได้บ่งชี้ถึงยอดคำสั่งซื้อ AI chips ขั้นสูง ที่มาจากทั่วโลกเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นสินค้าที่ยอดอัตรากำไรสูงกว่า 80% และมีอุปสงค์ที่มากกว่าอุปทานตลอดทั้งปี 2024 โดยนักลงทุนในตลาดโลกนั้น ยังคงเพิ่มการลงทุนในกลุ่มธุรกิจที่ได้ประโยชน์กระแส AI Megatrend โดยกลุ่มผู้ผลิต AI chips (Nvidia กินส่วนแบ่งตลาดกว่า 90%) นั้นจะได้ประโยชน์สูงสุดจากยอดขาย และกำไรที่เติบโตชัดเจน ในขณะที่บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ อาทิเช่น Amazon, Microsoft, Google และ Meta ที่มีการซื้อ AI chips เป็นจำนวนมาก เพื่อพัฒนาสินค้า และบริการใหม่ที่ใช้ AI technology นั้น นักลงทุนจะยังคงจับตามองว่า สินค้าและบริการใหม่ๆ นั้นจะออกมาในรูปแบบใด และจะสามารถทำกำไรให้บริษัทได้มากน้อยแค่ไหน
  • ตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ได้กลับมาเปิดทำการอีกครั้งหลังจากหยุดยาวช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยตลาดจีน และฮ่องกงได้ปรับตัวสูงขึ้นเป็นอย่างมาก ทั้งจากแรงซื้อจากกองทุนของรัฐบาล และแรงซื้อจากนักลงทุนที่แสวงหาหุ้นบริษัทคุณภาพที่มีราคาถูกกว่าตลาดโลกเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจีนนั้นจะยังคงเผชิญกับภาวะเงินฝืด และปัญหาหนี้ในภาคอสังหาฯก็ตาม โดยนักลงทุนจะจับตามองการประชุมใหญ่ของรัฐบาลจีนในเดือนมี.ค. ถึงสัญญาณของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจว่าจะมีมากน้อยแค่ไหน
  • ตลาดหุ้นไทย SET 11.87 จุด (0.9%) สู่ระดับ 1398.14 จุด จากแรงซื้อต่างชาติ มีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 1410-1420 จุด จากการที่รัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน ที่เพิ่มขึ้นหลังการใช้งบประมาณ ราคาน้ำมันที่ฟื้นตัว และดอกเบี้ยที่คาดว่าจะลดลงในช่วงครึ่งปีหลัง
  
28 ก.พ. สหรัฐ GDP (4Q) (QoQ) คาดว่าอยู่ที่ 3.3% โดยไตรมาสก่อนอยู่ที่ 3.3%
29 ก.พ. PCE Deflator (Jan) (YoY) คาดว่าอยู่ที่ 2.4% โดยไตรมาสก่อนอยู่ที่ 2.6%
1  ก.พ. จีน PMI ภาคการผลิต (กุมภาพันธ์) คาดว่าอยู่ที่ 49.5 โดยเดือนก่อนอยู่ที่ 49.2
1  ก.พ. สหรัฐ ISM ภาคการผลิต (กุมภาพันธ์) คาดว่าอยู่ที่ 49.2 โดยเดือนก่อนอยู่ที่ 49.
1


 
  • LHGEQ มีกลยุทธ์การลงทุนใน Growth Stock และบริหารแบบเชิงรุก เน้นคัดหุ้นเติบโตที่เป็นอนาคตใหม่ในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาหุ้น ประกอบกับสัญญาณทางเทคนิคของ S&P 500 Index ที่ปิดเหนือ All time high เราจึงมองว่าหุ้นในกลุ่ม Big/Mid Cap , Growth มีโอกาสไปต่อได้อีก
Source:LHFUND, LHSEC, CNBC, UOB Kay Hian, Tisco
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน


กรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ